Testimony by a former victim of Ruma Trần Tâm: ท่านอาจารย์ที่เคารพและ ทีมงานโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ที่รัก เป็นเวลา 32 ปีแล้ว ที่ฉันได้รับการ ประทับจิตจากท่านอาจารย์ วันนี้ ฉันอยากจะเป็นพยาน ถึงคำพูดของอาจารย์เกี่ยวกับ ปีศาจ เจิ่มตัม ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้ เป็นความลับมานานหลายสิบปี เพราะเขาพูดว่า "ชื่อเสียงของธรรมทูต อยู่ในมือของคุณ" ในปี 1996 เมื่อเขากลับมา เอาหลัก (เวียดนาม) โดยแสดงตนเป็นธรรมทูตกวนอิม ฉันได้เข้าร่วมกลุ่ม คำสอนของท่านอาจารย์ ตอนนั้นฉันอายุ เพียง 20 ปี กลางดึกเขาเรียกฉัน เข้าไปในห้องส่วนตัวของเขา และคนเพศเดียวกัน ก็ล่วงละเมิดทางเพศฉัน ฉันเสียใจมากเพราะ ฉันคิดว่าธรรมทูต ของท่านอาจารย์ควรเป็น นักบุญผู้สูงส่ง แต่เขากลับทำการกระทำ ที่เลวร้ายเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ศรัทธาในตัวท่านอาจารย์ อย่างที่สุด ฉันจึง ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทำงานในกลุ่ม คำสอนของท่านอาจารย์ต่อไป และหลายครั้งหลังจากนั้นเขา ก็ทำแบบเดียวกันกับฉันและ สั่งไม่ให้ฉันพูดออกมา เรื่องที่เขากล่าวอ้างว่า ท่านอาจารย์ส่งต่อ ตำแหน่งให้เขามาจากประโยค ของอาจารย์ที่เขาเอามาจากบทกวี ของอาจารย์ “เจตจำนงของฉัน” ซึ่งมีชื่อของเขาอยู่: “โลกนี้ไม่มีอะไรเลย ที่จะให้ฉัน...(เซ่ยก๋อยเจิ่มตัม…)
(หมายเหตุจากอาจารย์: มันเป็นเพียง บทกวีของฉันบทหนึ่ง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา “เจิ่นตัม” ที่นี่ หรือ ที่ไหนเขียนด้วยตัวเล็ก ตัวธรรมดาไม่ใช่ชื่อคน แปลว่า: เฉพาะอาณาจักรทางโลก โลกีย์ โลกใบนี้ ถ้าเป็นชื่อต้องเขียนด้วย ตัวพิมพ์ใหญ่ (Tr… Ta…)!! ฉันไม่เคยส่งเขา ไปเอาหลัก (เวียดนาม) เพื่อเป็นธรรมทูตกวนอิม คนที่แต่งงานแล้วมีลูก และภรรยาไม่สามารถมีตำแหน่งนี้ได้ มีแต่พระหรือแม่ชีเท่านั้นที่จะเป็นได้ เขาเป็นคนหลอกลวงอย่างแท้จริง การกระทำเช่นนั้นก็ผิดกฎหมายเช่นกัน!!! เขาไม่เคยขอฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ไม่มีใครเคยบอกฉันเลย เกี่ยวกับชื่อนี้ พร้อมเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ มากมาย!!)ความปรารถนาของฉัน บทกวีที่เขียนโดย ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (วีแกน) ในปี 1979 ที่ประเทศเยอรมนี ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ แปลโดยบรรณาธิการ จากหนังสือรวมบทกวี “ความทรงจำที่สูญหาย” พิมพ์โดย บริษัทการพิมพ์เจียฮวง ในไต้หวัน (ฟอร์โมซา)เอ็มกล่าวว่า: บทกวีนี้ถูกเขียนขึ้น เมื่อท่านยังอยู่ทางโลก มีพันธะอยู่ในเยอรมนี นานก่อนที่ท่านจะออกจากบ้าน เพื่อแสวงหาความรู้แจ้ง ไม่มีใครรู้จักบทกวีนี้มาก่อน ที่ท่านได้รับการขนานนามว่า ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ – ไม่เกี่ยวข้องกับงานของท่านเลย ทั้งก่อนและหลัง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการหลอกลวง เพื่อประโยชน์อย่างเจิ่นตัมด้วย!!!!! เขาใช้มันเพื่อหลอกลวงคนบริสุทธิ์ และเปราะบาง ด้วยเจตนาชั่วร้ายของเขา!!!หากฉันตายพรุ่งนี้ ทรัพย์สินทั้งหมดของฉันตกเป็นของคุณ คุณเป็นญาติสนิทของฉัน ไม่มีใครในโลกนี้อีกแล้ว!ฉันเขียนพินัยกรรมไว้ ณ ที่นี้ มือฉันสั่นระริก ใจฉันเต้นระรัว! นายชื่อนี้... ผู้ได้รับมรดก ลายนิ้วมืออยู่บนทุกสิ่ง ที่ฉันมี ทิ้งไว้ด้วยความปรารถนาอันเจ็บปวดนี่คือรายการทรัพย์สินของฉัน: เสื้อผ้าดี ๆ ไม่กี่ชิ้น ตู้เซฟว่างเปล่า บทกวีและหนังสือ ไม่เคยตีพิมพ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีเพชร ไม่มีเครื่องประดับเลย!แต่บทกวีของฉันสำคัญนะ! ที่รัก โปรดเก็บมันไว้ทั้งหมดเถอะ บทกวีของฉันสร้างขึ้นเพื่อคุณ จากค่ำคืนที่นอนไม่หลับ และความฝันที่พังทลาย!คุณแน่ใจได้ตอนนั้น ฉันมีความสุข การจากโลกนี้ไป ใจของฉันไม่มีความเสียดายใด ๆ (*ดั้งเดิม) โลกนี้ไม่มีสิ่งใด ที่จะให้ฉันได้ (*หมายเหตุว่าไม่มีคำว่า เจิ่นตัม ในบทกวีภาษาอังกฤษต้นฉบับ) ตั้งแต่วันที่คุณจากไป ชีวิตคืบคลานสู่หุบเขาแห่งความตายฉันรู้ มันบ้า และไร้ประโยชน์ มันไร้สาระ และโง่เขลา ฉันรู้! แต่หัวใจของฉัน หัวใจของฉัน ก็เป็นของคุณเหมือนกัน!...คุณสามารถเก็บมันไว้ได้ ด้วยเป็นมรดก ถ้าฉันตายพรุ่งนี้ ถ้าฉันตายเร็ว ๆ นี้ มันจะต่างกันตรงไหน อีกวันหนึ่ง หรืออีกปีหนึ่ง? ใครจะสนใจว่าฉันจะตายพรุ่งนี้บทกวีนี้และบทกลอนอื่นอีกมากมาย ของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (วีแกน) สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ SupremeMasterTV.com/Poems และ SMCHBooks.comเขา เจิ่นตั๋ม เป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัยจากฟิลิปปินส์ ที่ฉันเคยช่วยเหลือ! ถ้าฉันจำไม่ผิด โอ้ พระเจ้า ฉันไม่รู้ จะพูดอะไรอีกแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งของทั้งหมด แต่มันเป็นเรื่องศีลธรรมอันต่ำต้อย – ไม่มีศีลธรรมใด ๆ เลย และฉันไม่เชื่อว่าจะมี คนแบบนี้อยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ และที่เรียกว่าผู้ติดตามของฉัน! พวกเขาเข้ามาขัดขวาง รับเพียง คำสอนทางกายภาพของฉัน และหลอกคนอื่นให้พวกเขาหลงเชื่อ เพื่อดูดเลือดพวกเขาด้วย – คุณเรียกมันอย่างนั้นได้ นั่นคือสาเหตุที่คนจำนวนมาก เหี่ยวเฉา และตาย โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว คุณคงเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแล้ว จากรายงานทั้งหมด ที่เรานำมาลงทาง โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ เพื่อให้คุณได้ทราบ เพื่อจะได้ บอกต่อให้คนอื่น ๆ ระวัง การกระทำชั่วร้ายดังกล่าวและตอนนี้เราก็ได้ทราบเพิ่มเติม เกี่ยวกับสิ่งที่ เจิ่นตั๋ม กำลังทำอยู่ลับหลังฉัน ไม่ใช่แค่หลอกลวงผู้คน ด้วยความศรัทธาและความทุ่มเทของ พวกเขา แต่หลอกเอาลูกศิษย์ของฉัน ให้ติดตามเขาเพราะพวกเขา เชื่อว่ามันเป็นคำสั่งของฉัน ว่าเขาคือผู้สืบทอดของฉันจริง ๆ แล้วตอนนี้พวกเขาก็เชื่อว่า เครื่องประดับปลอมที่ขายไปก็เป็น ของฉันเหมือนกัน เพราะจดหมาย สำนึกผิดบอกฉันแบบนั้น พี่สาวคนนี้ได้รับการบอกเล่า จากกลุ่มนี้ – ห้าคนเป็นผู้ที่ เรียกว่าพระ และหนึ่งคนเป็นแม่ชี ที่โกนหัวด้วย และสวมจีวรสีเทา ก็ยังบอกกับเธอว่า มันมาจากฉัน: มันเป็น “ภารกิจลับ” ของเธอ เธอไม่ควรบอกใคร เพราะเธอคือคนที่ถูกเลือก ได้รับเลือก และได้รับความไว้วางใจให้ขาย เครื่องประดับของฉัน “อย่างลับ ๆ”Excerpts from a Reporting Letter from Our Association Member About the Repenting Sister Who Helped Trần Tâm Sell Fake S.M. Celestial Jewelry: ท่านอาจารย์ที่รักยิ่ง ประมาณปี 2018 เธอได้เข้าหาฉันและ เราได้สนทนากัน แล้วเธอก็เริ่มเล่ารายละเอียด เกี่ยวกับการก่อสร้างอาศรม ใหม่ ใหญ่มาก ในไต้หวัน (ฟอร์โมซา) อธิบายเรื่องนี้เรื่องนั้น พูดถึงฐานราก ที่ถูกวางไว้ และรายละเอียดอื่น ๆ แล้วเธอมีภาพถ่ายแม้ว่า เธอไม่เคยโชว์ภาพถ่ายใด ๆ ให้ฉันดู เธอพูดต่อไปถึงเรื่องอื่น ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันชะงัก คือที่เธอพูดว่า เธอกำลังทำงานอย่างลับ ๆ ให้กับอาจารย์ ด้วยท่าทาง ราวกับว่าเธอเป็นสายลับ ฉันแปลกใจทีเดียวกับเรื่องนี้ แม้ว่าฉันไม่ได้สนใจมากนัก ในตอนนั้น ภายหลัง ตอนที่ฉันได้มีโอกาส ไปเยือนอาศรมใหม่ (นิวแลนด์) ฉันตระหนักว่า สิ่งที่เธอบอกมานั้นไม่จริง มันไม่มีการก่อสร้าง ที่ดำเนินอยู่ ตามที่เธอได้อธิบายมา แต่ อาศรม ก็แค่ซื้อมา มันชัดเจนกับฉันว่า เรื่องที่เธอพูดนั้นไม่เที่ยงตรง ตั้งแต่เธอเล่าเรื่อง “ภารกิจลับ” นี้กับฉัน หลายปีก่อน ฉันเชื่อว่า เธออาจจะได้บอก เรื่อง “ภารกิจลับ” กับผู้ประทับจิตอื่นหลายคน เพราะฉันพบเธอเพียงครั้งเดียวและ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ มาก่อนในตอนนั้น ลูกศิษย์ของท่าน (*****) จากเอาหลัก (เวียดนาม)
คุณเชื่อได้ไหมว่าอย่างนั้น? บางทีลูกศิษย์หลายคนที่ซื้อ เครื่องประดับนี้ไปก็คงจะรู้ เรื่องราวที่คุยกันไว้บ้างไม่มากก็น้อย ไม่ใช่แค่เพียงในจดหมาย สำนึกผิดฉบับนี้เท่านั้น ฉันหวังว่าพวกเขาจะเขียน และเปิดโปงกลุ่มนี้ ถ้าพวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นใครเป็นเวลานานแล้ว ที่เราไม่ได้มีการปรากฏตัว ในรูปแบบแม่ชีและพระ ในกลุ่มของเรา ในสมาคมของเรา พวกเขาไม่โกนหัวและ ไม่สวมชุดแม่ชี หรือชุดพระอีกต่อไป ดังนั้น พระห้าคนและ แม่ชีหนึ่งคนที่โกนหัว เหล่านี้ แน่นอนที่สุด ไม่ได้มาจากกลุ่มของเรา จากสมาคมของเรา ดังนั้น ฉันก็ไม่ทราบว่าทำไม พี่สาวคนนี้ถึงไม่รู้เรื่องนั้น ไม่สังเกตเห็นเรื่องนั้น เธอไม่ได้อัปเดตตัวเธอเอง เกี่ยวกับสถานการณ์ ในสมาคม และฉันก็เห็นว่ามีแต่กลุ่มของ เจิ่นตั๋มเท่านั้นที่พวกโกนหัวเหล่านี้ ที่เรียกว่าพระและแม่ชี ก็แน่นอนว่ามันมาจากเขา จากกลุ่มของเขาโดยปกติแล้วเราไม่ฟ้องร้องใคร แต่ถ้าพวกเขาโกงคนอื่นแล้ว ใช้ชีวิตด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา ของคนอื่นแบบนี้ ฉันก็ต้อง ปกป้องพวกเขาและ ผู้ที่ฉันเรียกว่าลูกศิษย์ของฉัน และอีกอย่างถ้าพวกเขา ทำอะไรผิด ตามกฎหมายของประเทศ แล้วถ้าเรารู้ เราต้องแจ้งรัฐบาล เพราะมันเกี่ยวข้องกับ ชื่อเสียงของสมาคมของเราด้วย เราจึงไม่ทำสิ่งดังกล่าว แต่เรากลับถูกตำหนิเกี่ยวกับเรื่องนี้ฉันไม่มีอำนาจทางโลกและเวลา ที่จะดูแลเรื่องทั้งหมดนี้ได้ แต่ฉันคิดว่า สักวันหนึ่งรัฐบาล กฎหมายจะจับพวกเขาและ จัดการกับการกระทำทางอาญา ของพวกเขาอย่างเหมาะสม พวกเขาจะต้องชดใช้กรรม สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ และจะถูกลงโทษในนรกเช่นกันตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยรู้ว่า ทำไมพวกเขาถึงบอกว่าฉันไม่เสียภาษี ฉันมีบริษัท และบริษัทเหล่านั้นจะเสียภาษี ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ เรื่องทั้งหมดนี้เลย ฉันเพียงเอามาพอใช้ และเพื่อช่วยคนที่เดือดร้อนด้วย หรือซื้ออาศรมให้พวกคุณ มาและนั่งสมาธิPhoto Caption: ค้นหาความสงบสุขให้กับหัวใจ