ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

เรื่องราวของพระมหากัสสปะ(วีแกน) ตอนที่ 7 จาก 10 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ดังนั้น ไม่ใช่ ว่าคุณสามารถทำซ้ำหรือเรียนรู้ จากคนอื่น มือสองหรือสาม จากพระพุทธเจ้า นั่นหมายถึงเกิดจาก คำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วคุณก็จะรู้แจ้ง มันต้องเป็นอาจารย์ที่มีชีวิต และภิกษุอื่น ๆ อีกมาก เช่นกัน เช่น พระอานนท์และบุคคลอื่น ๆ พวกท่านจะต้องอยู่ภายใต้การชี้นำ อันเมตตาของพระพุทธเจ้า ด้วยพลังอันมหาศาลจาก ภายในพระพุทธเจ้าเอง

ในหลาย ๆ คัมภีร์ของศาสนาต่าง ๆ พวกเขาต่างกล่าวว่า คุณต้องหาอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ พุทธะที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่คนจำนวนมากแค่ไม่สนใจมัน และพวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจ กับมันจริง ๆ และพวกเขาก็ไม่รู้ ว่าจะไปหาอาจารย์ที่ไหน และจะเป็นอาจารย์ ประเภทใด พวกเขาจะไปทดสอบ ให้รู้ว่า อาจารย์คนนั้น ดีหรือไม่ ได้อย่างไร? มันไม่ใช่เหมือนกับคุณไปที่ร้านค้า แล้วคุณลอง สวมเสื้อผ้า และรู้ว่ามันพอดีกับคุณไหม มันยากกว่า

ถ้าอาจารย์มีคำสอน พิมพ์อยู่ในหนังสือหรืออะไร แล้วบางทีคุณสามารถอ่านมันก่อนได้ แล้วคุณจะรู้ ว่าอาจารย์คนนั้นดีสำหรับคุณไหม หรือถ้าคุณมีโชคพอ และ/หรือ ความบริสุทธิ์นิดหน่อย หรือความอ่อนไหว คุณก็อาจจะ เห็นอาจารย์ ในดินแดนสวรรค์ภายใน ของดินแดนหลุดพ้น และเห็นอาจารย์กำลังทำ สิ่งนี้สิ่งนั้นและ ช่วยเหลือคนอื่น ด้วยดวงตาจิตวิญญาณของคุณ ในนิมิตภายในของคุณ แล้วคุณก็รู้ว่าอาจารย์ท่านนี้ เป็นอาจารย์ที่แท้จริง ในการปรากฏของท่าน เขา/[เธอ] ตอนประทับจิต คุณสามารถเห็น แสงสวรรค์ภายใน จากสวรรค์ หรือคุณสามารถได้ยิน เสียงอันไพเราะของพระเจ้า เสียงหรือแรงสั่นสะเทือน สวรรค์ภายใน ที่เราเรียกมัน แล้วละก็ แน่นอน คุณมีความสุข และคุณจะทำชำระล้าง กรรมทั้งหมดของคุณใน วันที่คุณประทับจิตแบบเต็ม กรรมของคุณเริ่มที่จะจากคุณไป เพราะบวกและลบ ผสมกับเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้

ดังนั้น คุณเห็นไหม หลังจากเป็น สาวกของพระพุทธเจ้าและ ได้รับการสั่งสอนจากพระองค์แล้ว ให้นั่งสมาธิหรืออาจจะ ธรรมวิถีกวนอิมนี้ ท่าน พระมหากัสสปะ ยังฉันวันละครั้ง และใช้ชีวิตอย่างที่ท่านทำมาก่อน ภายในความดีงาม 13 อย่าง วินัยแห่งการบำเพ็ญตบะ 13 ข้อ แต่มันไม่ใช่เพราะท่าน เป็นนักพรต หรือฉันวันละครั้ง ทำให้ท่าน เป็นพระอรหันต์ ไม่ใช่ แม้ว่าคุณกินสามมื้อต่อวัน คุณก็ยังเป็นพระอรหันต์ได้ ถ้าคุณพบกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ อย่าง พระศากยมุนีพุทธเจ้า และถ้าคุณไม่กิน ชาวปลาในวันศุกร์ หรือคุณกินเนื้อชาวสัตว์แทน หรือคุณไม่สวดมนต์มากมาย หรือคุณไม่เคยรู้จักว่าการบำเพ็ญ ทางจิตวิญญาณคืออะไรมาก่อน แต่ถ้าคุณพบกับอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ อย่างพระเยซูเจ้า งั้น แน่นอน คุณจะรู้แจ้ง คุณจะไปถึง ความเป็นนักบุญของคุณเองภายหลัง ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีกรรม น้อยแค่ไหนแล้ว และความบริสุทธิ์ของคุณเป็นยังไง ความจริงใจของคุณเป็นยังไง ซึ่งจะทำให้คุณไปข้างหน้า และขึ้นไป

พระหลายรูป ของพระศากยมุนีพุทธเจ้าในตอนนั้น ฉันวันละครั้ง และอาจจะ ดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำผัก ในตอนบ่าย พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตเรื่องนั้น แต่มันไม่ได้หมายถึงว่า เพราะ พวกเขาฉันวันละครั้งหรือ พวกเขาออกไปบิณฑบาต คือเหตุผลที่พวกเขากลายเป็นพุทธะ ไม่ ไม่ มันเป็นเพราะ พวกเขามีอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ พระพุทธเจ้า อาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่สอนพวกเขาถึงการบำเพ็ญทาง จิตวิญญาณของการทำสมาธิที่ดี มันไม่ใช่ว่าคุณบังคับตัวคุณเอง ทำการบำเพ็ญตบะ แล้วคุณจะกลายเป็นพุทธะ มันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ว่าคุณจะทำ หรือไม่ทำการบำเพ็ญตบะ คุณก็ยังสามารถเป็นนักบุญได้ ถ้าคุณมีอาจารย์ ที่สอนวิถีที่ถูกต้องแก่คุณ เพราะท่าน เขา/[เธอ] ไม่เพียงแต่ประทาน วิถีทางที่ถูกต้องให้กับคุณ หรือแม้แต่มนต์เท่านั้น แต่เขา/[เธอ]ยังประทานพลังงาน ของเขา/[เธอ] เพื่อสนับสนุนคุณ เพื่อยกระดับคุณ เช่นเดียวกับการถ่ายเลือด จนกระทั่งคุณหายดีได้ ด้วยตนเอง ซึ่งในสมัยสิ้นสุดพระธรรม นั้นค่อนข้างจะยาก กว่าในสมัยพุทธกาล แต่เราทำได้ และเราก็ชดเชยมันได้จนถึงตอนนี้ เรายังทำมันต่อไปได้ และเราจะไม่ละทิ้งผู้คนหรือ สิ่งมีชีวิตที่ต้องทนทุกข์ ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราพยายาม แม้ยาก มันเป็นกรรมหนัก และมันมีข้อจำกัด และกฎเกณฑ์ทุกประเภท

ตัวอย่างเช่น การใช้ชีวิตของฉันตอนนี้ เหมือนถูกจำคุก ฉันไม่สามารถแม้แต่จะเดินออกไป ออกไปเดินสักสองสามร้อยเมตร หรืออะไรทำนองนั้นได้ แม้ฉันจะอยาก ถ่ายรูปบ้าง แต่ฉันก็ต้องดูว่า ที่นั้นอาจจะว่างเปล่า สวนไม่มีใครกำลังมอง หรือเดินห่างจากประตูไป สองสามก้าว ตอนที่มันเงียบสงบ และทั้งพื้นที่ว่างเปล่า แล้วพอฉันกลับมา ฉันก็ต้องชดใช้วิญทางจิตวิญญาณ ฉันต้องชดเชยมากขึ้น นั่งสมาธินานขึ้นมาก แต่แล้วบางครั้งมัน ก็ค่อนข้างยุ่งทีเดียว งานที่เพิ่มมาของ โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์คือ โอ้ พระเจ้า - บางครั้ง มันรู้สึกเหมือนตลอดกาล จากเมื่อวานตอนเช้า จนกระทั่งตอนนี้ ฉันไม่ได้หลับตา เพราะงานโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ มากเกินไป สำหรับฉันคนเดียว และฉันก็ไม่เก่งมาก กับคอมพิวเตอร์หรือไฮเทค หรืออะไร ดังนั้นเพื่อหาคำ ภาษาอังกฤษบางคำ ที่ฉันลืมไป วิธีการเขียนอย่างถูกต้องหรือ รู้ความหมายของมัน มันใช้เวลานาน ฉันต้องเอาพจนานุกรมออกมา และหาจนทั่ว และบางครั้งพจนานุกรมเล่มนั้น ไม่มีมัน ฉันมีอยู่เล่มเดียว ฉันแบกทุกสิ่งไม่ได้ ตอนฉันกำลังหลบหนี

บางครั้ง ถ้าฉันกำลังหลบหนี ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ฉันมีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว บนร่างกายฉันและกระเป๋าถือ ไม่มีอย่างอื่น อย่างอื่นทุกอย่าง ฉันอาจต้อง ขอให้ใครสักคนส่งตามไปภายหลัง หรือไปโดยไม่มีอะไร หรือซื้อมันตามทาง ดังนั้น ฉันมีพจนานุกรมไม่มาก กับตัวฉัน ฉันมีพจนานุกรมภาษาอังกฤษ 25 เล่ม หนังสือหนามาก แต่ละเล่มมีน้ำหนัก อย่างน้อยหนึ่งกิโลกรัม และหนามาก และใหญ่มาก แต่ฉันเอามัน ไปทุกที่กับฉันไม่ได้ ฉันเอามันไปด้วยบางครั้งแต่ก่อน ไปประเทศต่าง ๆ แต่ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้อีกต่อไป นั่นเป็นช่วงเวลา ที่ฉันยังอาศัยอยู่กับผู้คน ฉันยังออกมา และพบคุณตอนมีฌาน หรือพบคุณ ทุกวันตอนคุณมาเยี่ยม แต่ตอนนี้ ฉันแค่โดน “ขังอยู่ในบ้าน” ขังอยู่ในบ้านโดยสมัครใจ - ไปไหนไม่ได้ ทำอะไรมาไม่ได้ ฉันไม่ได้กำลังบ่น ฉันแค่กำลังบอกคุณ ถึงมุมหนึ่งของชีวิตฉัน เพราะคุณอยากรู้

คุณเห็นไหม ใครก็ตามที่คุณต้องการ เป็นอาจารย์คุณ ควรมี เชื้อสายของการถ่ายทอด พลัง และถ้าคุณโชคดี คุณจะพบ กับอาจารย์ แม้ว่าเขาเป็นพระ หรือเธอไม่ใช่แม่ชี แต่เธอมีเชื้อสายของ การรู้แจ้งภายในตัวตนของเธอ จากอาจารย์ของเธอ แล้วคุณอาจจะสามารถ เห็นอาจารย์ที่แท้จริงของเธอได้ หรืออาจารย์ของเขาเอง หรือ เขาอาจจะเป็นอาจารย์เอง

เชื้อสายแห่งการรู้แจ้ง ไม่ได้อยู่ในกลุ่มศาสนาหนึ่ง เสมอไป มันสามารถวิ่งไปยังศาสนา ประเภทอื่นที่คุณคิด ว่าเป็นศาสนาอื่น แต่มันไม่ใช่แบบนั้น มันไม่ใช่ว่าคุณมี ศาสนาที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับพระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงเป็นพระศาสดาผู้ตรัสรู้แล้ว พระศาสดาผู้ตรัสรู้ผู้ยิ่งใหญ่ และพระองค์ทรงถ่ายทอด เชื้อสายจิตวิญญาณของพระองค์ ให้แก่สาวกที่ใกล้ชิดของพระองค์ และสาวกผู้ใกล้ชิดเหล่านี้ แตกแขนงออกไปสั่งสอนผู้อื่น ใครก็ตามที่มาหาพวกท่าน ในยุคของพวกท่าน และมีสิบคนด้วยซ้ำ และพวกท่านก็ผลัดกัน หรือบางทีอาจมีเพียงพวกท่านเท่านั้น ผู้นำภิกษุท่านหนึ่งในขณะนั้น ที่ทำการการส่งผ่าน/การประทับจิต ทั้งหมด และต่อมาเมื่อพระภิกษุนั้น สิ้นแล้วไปสู่พระนิพพานแล้ว องค์ถัดไปก็จะเป็น สืบต่อไปในฐานะผู้สืบทอด และองค์ถัดไป องค์ถัดไป ต่อเนื่องจากพระพุทธเจ้า ไปจนถึงพระราหุล พระราหุลเป็นโอรสของพระองค์ ผู้สืบทอดตำแหน่งองค์ที่สิบ เราไม่รู้ว่าเชื้อสายนั้น อยู่ที่ไหน ที่ไหนที่ สายเลือดจิตวิญญาณได้ไปถึงแล้ว

ยกตัวอย่าง ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ทรงประทับจิตผู้คนมากมาย ภูมิหลังทางศาสนาที่แตกต่างกัน ดังนั้นพระงอค์คงมี สาวกพราหมณ์ และ/หรือ สาวกมุสลิมหรืออื่น ๆ ศาสนาดั้งเดิมอันเก่าแก่ แต่พวกเขากลายเป็น สาวกของพระพุทธเจ้า แต่เนื่องจากพระพุทธเจ้าไม่ใช่ เผด็จการ พระองค์ปล่อยให้ ลูกศิษย์ของพระองค์ยังคง ปฏิบัติตามศาสนาของพวกเขาต่อไป เช่นเดียวกับในเงื่อนไขการประทับจิต ของเรา ฉันบอกว่าคุณทำต่อไป ปฏิบัติตามศาสนาของคุณและ ทำอะไรก็ตามที่คุณทำด้วย พิธีกรรมทางศาสนาของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

Photo Caption: เพลิดเพลินกับการย้ำเตือนของสวรรค์ แต่พยายามค้นหาสวรรค์

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (7/10)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
34:08

ข่าวเด่น

191 รับชม
2024-11-18
191 รับชม
33:51

ข่าวเด่น

225 รับชม
2024-11-17
225 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์