“เราแต่ละคนได้รับชีวิตมนุษย์ เพียงเพื่อจุดประสงค์ของการตระหนักรู้ถึงพระเจ้า ถ้าเราสละหน้าที่นี้ เราจะไม่มีความสุขเลยในชาตินี้หรือชาติไหน ๆ บอกความจริงแก่คุณให้ นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวของความทุกข์ของมนุษย์ และไม่มีอย่างอื่น ถ้าเราตระหนักว่า เรานั้นดิ้นรนอย่างไรในครรภ์แม่ เราสำนึกบาปอย่างไรต่อความผิดพลาดในชาติที่แล้ว แล้วเราสัญญากับพระเจ้าอย่างไรเพื่อจะใช้ชีวิตปัจจุบันให้มีประโยชน์ในรูปแบบที่มีความหมายมากเพื่อรับใช้พระองค์ ก่อนที่เราจะเกิดมา แล้วเราจะไม่เสียเวลาสักหนึ่งวินาทีเลยที่จะคิดถึงเรื่องอื่น แต่จะพยายามอย่างดีที่สุดของเราในเวลาว่างของเราทั้งหมดเพื่อตระหนักรู้ถึงพระเจ้า!

 

แต่ทันทีที่เราเกิดมาในโลกนี้ เราลืมทุกสิ่ง เพราะมันเป็นกฎของโลกแห่งวัตถุ ที่จะให้คนลืม ดังนั้น มันจำเป็นที่อาจารย์จะมา และเตือนเราครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเราจำสิ่งที่เราได้สัญญากับพระเจ้าได้ในครรภ์ของแม่เรา ด้วยสมองทางกายภาพของเรา แต่วิญญาณของเรา ความสามารถของปัญญาเราจะจำได้”

“ทุกครั้งที่คุณเพ่งไปที่จุดเดียวและอย่างหมดหัวใจ เพื่อสิ่งเดียว นั่นคือการทำสมาธิ ตอนนี้ฉันเพ่งอย่างเดียวไปที่พลังภายใน ไปที่ความเมตตา ไปที่ความรัก ไปที่คุณสมบัติความกรุณาของพระเจ้า และนั่นก็คือการทำสมาธิ เพื่อทำเช่นนั้นอย่างเป็นทางการ เราควรแค่นั่งที่มุมเงียบ ๆ ของฉัน และอยู่คนเดียว นั่นคือกระบวนการของการทำสมาธิ แต่มันไม่ใช่ด้วยการนั่งเงียบ ๆ ตรงมุมห้อง ที่คนจะได้อะไร คุณต้องติดต่อกับพลังภายในก่อน และทำสมาธิใช้พลังภายในนั้น นี่เรียกว่า การตื่นรู้ด้วยตนเอง เราต้องปลุกตัวตนแท้จริงภายในและให้พระองค์ทำสมาธิ ไม่ใช่สมองมนุษย์ และความเข้าใจมนุษย์ของเรา ถ้าไม่เช่นนั้น คุณจะนั่งลง และคิดเกี่ยวกับหลายพันอย่าง และจะไม่สามารถสยบความปรารถนาของคุณได้ แต่เมื่อคุณปลุกตัวตน ตัวตนภายในแท้จริง พลังพระเจ้าภายในคุณ จะควบคุมทุกอย่าง คุณแค่ต้องรู้จักการทำสมาธิที่แท้จริง หลังจากที่คุณถูกปลุกตื่น ด้วยการถ่ายทอดจากอาจารย์ที่แท้จริง มิฉะนั้น มันเป็นแค่การเสียเวลากระวนกระวายกับกายและจิต”

“อาจารย์คือผู้ที่มีกุญแจให้คุณให้กลายเป็นอาจารย์... เพื่อช่วยคุณให้ตระหนักว่าคุณเองก็เป็นอาจารย์ และคุณกับพระเจ้าก็เป็นหนึ่งเดียวกัน แค่นั้น ... นั่นเป็นบทบาทเดียวของอาจารย์”

 

“อาจารย์คือคนที่จำที่มาของพวกเขาได้ ด้วยความรัก แบ่งปันความรู้นี้ให้กับใครก็ตามที่แสวงหามัน และไม่รับค่าจ้างสำหรับงานของพวกเขา พวกเขาให้เวลา การเงิน และพลังงานทั้งหมดของพวกเขาแก่โลก เมื่อเราไปถึงระดับนี้ของความเป็นอาจารย์ ไม่เพียงแต่เรารู้จักที่มาของเรา แต่เรายังสามารถช่วยผู้อื่นได้ให้รู้จักคุณค่าแท้จริงของพวกเขา คนที่ไปตามทิศทางของอาจารย์จะพบตัวพวกเขาเองในโลกใหม่อย่างรวดเร็ว ที่เต็มไปด้วยความรู้แท้จริง ความงดงามแท้จริง และความดีงามอันแท้จริง”

“การประทับจิต หมายถึงการเริ่มต้นของชีวิตใหม่ในรูปแบบการจัดการใหม่ มันหมายความว่าอาจารย์ได้ยอมรับคุณให้เป็นหนึ่งในตัวตนในแวดวงของนักบุญ แล้วคุณจะไม่เป็นตัวตนธรรมดาอีกต่อไป คุณได้รับการยกระดับ เช่นเดียวกับตอนที่คุณลงทะเบียนเรียนกับมหาวิทยาลัย คุณไม่ใช่นักเรียนมัธยมอีกต่อไป ในสมัยโบราณ พวกเขาเรียกมันว่าการล้างบาปหรือการหลบภัยในอาจารย์

 

การประทับจิต อันที่จริง เป็นแค่คำพูดเพื่อเปิดจิตวิญญาณ คุณเห็นไหม เราถูกรายล้อมด้วยสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ทั้งที่มองไม่เห็นและมองเห็น ดังนั้น สิ่งที่เรียกกันว่า การประทับจิต เป็นกระบวนการเปิดประตูของปัญญาและให้มันไหลผ่านโลกนี้ เพื่อให้พรโลกนี้ และที่เรียกว่า ตัวคุณเอง แต่ตัวคุณเองที่แท้จริงนั้นอยู่ในความรุ่งโรจน์และปัญญาเสมอ ดังนั้น มันไม่มีความจำเป็นต้องให้พรสิ่งนั้น”

แสงภายใน แสงของพระเจ้า คือแสงเดียวกันกับที่กล่าวถึงในคำว่า “การรู้แจ้ง” เสียงภายในคือ พระวาทะที่กล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิล “ในเริ่มแรกนั้นพระวาทะทรงเป็นอยู่แล้ว และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า” ผ่านแสงและเสียงภายในคือสิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักพระเจ้า

 

“ดังนั้น ตอนนี้ด้วยวิธีใดก็ตาม เราสามารถติดต่อกับพระวาทะ หรือกระแสเสียง แล้วเราก็สามารถรู้ได้ว่าพระเจ้าทรงอยู่ที่ไหน หรือเราสามารถติดต่อกับพระเจ้า แต่อะไรคือข้อพิสูจน์ว่าเราติดต่อกับพระวาทะ? หลังจากที่เราติดต่อกับแรงสั่นสะเทือนภายใน ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เรารู้สิ่งต่าง ๆ มากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราเข้าใจสิ่งต่าง ๆ หลายสิ่งที่เราไม่เคยคิดมาก่อน เราสามารถทำได้ สำเร็จสิ่งต่าง ๆมากมายที่เราไม่เคยฝันมาก่อน เรากำลังยิ่งใหญ่ขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น จนกระทั่งเรากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ตัวตนของเรามีความสามารถมากขึ้น และแผ่ขยายใหญ่ขึ้นจนกระทั่งเราอยู่ทุกหนแห่ง จนกระทั่งเราอยู่ทั่วทุกแห่งในขณะเดียวกัน แล้วเราก็จะรู้ว่าเรากลายเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า”

ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ยอมรับคนจากทุกพื้นเพและความเชื่อศาสนาให้เข้าประทับจิต คุณไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาปัจจุบัน หรือระบบความเชื่อของคุณ คุณจะไม่ถูกขอให้เข้าร่วมองค์กรใด ๆ หรือเข้าร่วมอะไรก็ตามที่ไม่เหมาะกับวิถีชีวิตปัจจุบันของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณจะถูกขอให้เป็นวีแกน คำสัญญาตลอดชีวิตว่าจะรับประทานอาหารวีแกน เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นในการได้รับการประทับจิต

 

การประทับจิตมอบให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย การฝึกสมาธิธรรมวิถีกวนอิมทุกวัน และการรักษาศีลห้า เป็นเงื่อนไขเดียวหลังจากการประทับจิต ศีลห้าเป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณไม่ทำร้ายตัวเองหรือสิ่งมีชีวิตอื่นใด

 

 

* นี่ยังรวมถึง การทำสมาธิเพ่งแสงและเสียงภายใน 2.5 ชั่วโมงต่อวัน

 

การปฏิบัติเหล่านี้จะเสริมสร้างประสบการณ์การรู้แจ้งเบื้องต้นของคุณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและช่วยให้คุณบรรลุขั้นสูงสุดของการตื่นรู้หรือความเป็นพุทธะด้วยตัวคุณเอง หากไม่มีการปฏิบัติทุกวัน คุณจะลืมการรู้แจ้ง กลับไปสู่ระดับต่ำกว่าของจิตสำนึกอย่างแน่นอน